ราคากุ้งประจำวัน

ปรับปรุงเมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2566

จำนวนกุ้ง (ตัว) ต่อกิโลกรัม 40 50 60 65 70 75 80 85 90 95 100 105 110 115 120 125 130 135 140 145 150 จำนวนตู้
ราคา (บาท) 205 185 175 17 170 160 150 145 135 130 128 122 122 120 120 120 120 118 118 118 116 29

เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับภูมิภาคเอเชียในอนาคต

‘บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์’ หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีในการนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปักธงสู่ผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตในต่างประเทศ ผ่านการทำสัญญาความร่วมมือ การร่วมทุนกับพันธมิตร และการส่งออก เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับภูมิภาคเอเชียในอนาคต

นายบรรลือศักร โสรัจจกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ TFM ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก (29 ตุลาคม 2564) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมวดธุรกิจการเกษตร โดยใช้ชื่อย่อ ‘TFM’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ เชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 20 ปี สั่งสมองค์ความรู้รวมถึงมีการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสินค้า ทำให้บริษัทฯ ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจของไทย ที่มีคุณภาพและมีแบรนด์สินค้าที่ได้รับการยอมรับ ทำให้ TFM เป็นหุ้น IPO น้องใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจ

หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มีแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อปักธงสู่ผู้นำในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เศรษฐกิจ โดยในปี 2564-2566 คาดจะใช้เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ จำนวน 1,177.4 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) การขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทย่อย TUKL มีแผนที่จะลงทุนในสายการผลิตอาหารสัตว์น้ำเพิ่มเติมอีก 2 สายการผลิต ซึ่งจะเป็นผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 36,000 ตันต่อปี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 250 ล้านบาท ภายในปี 2566 2) ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน จำนวนไม่เกิน 250 – 350 ล้านบาท ภายในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) หลัง IPO ต่ำกว่า 1 เท่า และ 3.) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ TFM มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง รวมกันเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าอัตราร้อยละ 50.0 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม หลังจากการหักทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามข้อบังคับของบริษัทฯ และตามกฎหมายแล้ว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตในต่างประเทศ ผ่านโมเดลทางธุรกิจที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ ได้แก่ 1. การเซ็นสัญญาความร่วมมือทางเทคนิคและอนุญาตให้ AVANTI Feeds Limited (AVANTI) ผู้ผลิตอาหารกุ้งรายใหญ่ของประเทศอินเดีย ใช้ชื่อทางการค้า (Trade Name) และสูตรการผลิตสินค้าของ TFM สำหรับการจำหน่ายอาหารกุ้งในประเทศอินเดีย 2. ร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) ในการจัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศอินโดนีเซีย ชื่อว่า บริษัท พีที ไทยยูเนี่ยน คาริสม่า เลสทารี จำกัด (TUKL) โดยมีพันธมิตรทางธุรกิจ 2 กลุ่ม คือ PT MSK ซึ่งเป็นพันธมิตรท้องถิ่น ที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจแปรรูปอาหารแช่แข็งรายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซีย และกลุ่ม AVANTI โดย TFM, PT MSK และกลุ่ม AVANTI มีสัดส่วนการถือหุ้นใน TUKL 65%, 25% และ 10% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ TUKL ตามลำดับ และร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศปากีสถาน คือ AMG-Thaiunion Feedmill (Private) Limited (AMG-TFM) เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในประเทศปากีสถาน โดยร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partner) คือ กลุ่ม AMG ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์น้ำรายสำคัญในประเทศปากีสถาน ซึ่ง TFM และกลุ่ม AMG ถือหุ้น 51% และ 49% ตามลำดับ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 AMG-TFM มีกำลังการผลิตอาหารปลา เท่ากับ 7,000 ตันต่อปี และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 15,000 ตันต่อปี ภายในปี 2564 ทั้งนี้ AMG-TFM ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้และมีกำไรสุทธิแล้วตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 และ 3. การส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ประเทศศรีลังกา มาเลเซีย บังคลาเทศ พม่า ปากีสถาน และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ เป็นต้น

สำหรับการเติบโตของตลาดในประเทศ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาและขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นการรักษาความสามารถในการแข่งขันในฐานะผู้นำของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารปลากะพงแบบเม็ดสำเร็จรูปแทนการใช้เหยื่อสดเป็นรายแรกๆ ของประเทศไทย ตลอดจนการเป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายอาหารปลากะพงยักษ์ ปัจจุบัน ได้มีการออกแบรนด์สินค้ากลุ่ม Fighting Brand เพื่อมุ่งเน้นการทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตามปริมาณการขายอาหารปลาในประเทศที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการมุ่งเน้นการทำตลาดอาหารปลาอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น ปู และปลาสลิด เป็นต้น โดยบริษัทฯ คาดว่าจะมีโอกาสเติบโตในธุรกิจอาหารสัตว์เศรษฐกิจเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในกับภูมิภาคเอเชียในอนาคต

นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ หรือ TFM มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 20 ปี รวมถึงมีความพร้อมทางด้านบุคลากร แหล่งเงินทุน และการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อใช้พัฒนาความสามารถในการแข่งขันและยกระดับอุตสาหกรรมโดยรวม ส่งผลให้ TFM มีความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดี มีความสม่ำเสมอ มีประสิทธิผลต่ออัตราการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ รวมถึงสามารถผลิตสินค้าที่หลากหลายและครอบคลุมสำหรับการเพาะเลี้ยงตลอดวงจรชีวิตของสัตว์น้ำในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ TFM อยู่ในสถานะที่มีความพร้อมสำหรับโอกาสในการเติบโตทั้งตลาดในประเทศ ผ่านการขยายธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์ประเภทอื่นๆ และตลาดต่างประเทศผ่านแนวทางต่างๆ เช่น การเข้าทำสัญญาความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น หรือการตั้งฐานการผลิตในต่างประเทศร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้ผลการดำเนินงานของ TFM เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งนี้ TFM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างมาก และมั่นใจว่า TFM จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีคุณภาพ และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงุทน