2567 กุ้งไทยจะไปต่อไม่ได้ ถ้า........😵
16 January 2024
กุ้งไทยจะไปต่อไม่ได้ ถ้ากุ้งมีสารต้องห้าม /สารตกค้างในปริมาณที่เกินกว่า ผู้ซื้อต่างประเทศกำหนด ....
วันนี้ คนกุ้งไทยเรามีทั้งข่าวร้าย และข่าวดี
วันนี้ คนกุ้งไทยเรามีทั้งข่าวร้าย และข่าวดี
- ซึ่งในข่าวดีคือ ประเทศคู่แข่งรายใหญ่ๆของเราในตลาดโลก ล้วนเจอการยื่นฟ้องให้มี มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping: AD) เช่นเรื่องขายกุ้งให้ต่างประเทศถูกกว่าการขายกุ้งในประเทศ หรือ ฟ้องให้มี มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) การอุดหนุนจากภาครัฐของผู้ผลิตกุ้ง สิ่งเหล่านี้ ทางประเทศผู้ซื้อมองว่า เป็นการทุ่มตลาด อันจะมีผลทำให้อุตสาหกรรมการผลิตกุ้งของประเทศผู้ซื้อเสียเปรียบนั่นเอง และช่วยส่งผลให้ ผู้ซื้อกุ้งจะระวังหรืออาจลดจำนวนการซื้อกุ้งเข้าจากประเทศที่ยังติดปัญหาเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด เพราะถ้าประเทศเหล่านั้นแพ้ ก็จะต้องโดนเรียกคิดภาษีย้อนหลังจากการซื้อกุ้งเข้าของประเทศเหล่านั้น นี่จึงเป็นข่าวดีของกุ้งไทย
- ข่าวร้าย
ละครับ ข่าวร้ายคือ มีปัญหาสารตกค้างในกุ้ง(สารต้องห้าม และหรือ สารที่อนุญาติให้ใช้แต่เหลือตกค้างในกุ้งเกินกว่าที่กำหนด) อันนี้ เป็นประเด็นที่น่ากลัวสุดๆ เพราะไม่รู้ตู้ไหนของกุ้งไทย หลุดไป (ตอนอยู่ในไทย สุ่มตรวจไม่เจอสาร/ยา) แต่ตอนที่ไปถึงประเทศเป้าหมายแล้วตรวจเจอสารตกค้าง/สารต้องห้าม แบบนี้มีโดนตีกลับ และหรือโดนทำลาย /โดนปรับ นั่นเอง - อีกทั้งรายชื่อเกษตรกร หรือฟาร์ม รายชื่อห้องเย็น และรายชื่อประเทศ อาจติดโผ บัญชีดำ- แบลคลิสท์ (Blacklist) ด้วย ซึ่งวันนี้ เวลานี้ ทั้งหน่วยงานภาครัฐของไทย(กรมประมง) หน่วยงานเอกชนไทย(กลุ่มห้องเย็น) ได้สุ่มตรวจหาสารต้องห้าม/สารอนุญาตให้ใช้ได้แต่ต้องมีปริมาณจำกัดที่รับได้ไม่ตกค้างเกินค่าที่กำหนดในกุ้งที่ซื้อจากฟาร์ม และ สินค้ากุ้งที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ อย่างเข้มงวด
วิงวอน... จึงใคร่ขอให้ทราบสถานการณ์ ว่าเรื่องยา/สาร ตกค้างในกุ้งของบ้านเรา กำลังถูกละเลยและมองข้าม แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะทำให้ คู่ค้าตลาดโลกไม่ไว้วางใจเรา และไม่อยากซื้อสินค้าที่ มีของแถมไม่พึงประสงค์ เช่นยาหรือสารตกค้าง ครับ
เพื่อให้ กุ้งไทย ยังเดินหน้าต่อไปได้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในอุตสาหกรรมการผลิตกุ้ง ต้องช่วยกันด้วยความตั้งใจอย่างแท้จริงนั่นคือ ไม่ใช่สารต้องห้ามใดๆที่เขาห้าม เช่น มาลาไคท์กรีน คลอแรมเฟนิคอล กลุ่มไนโตรฟูแรน เป็นต้น และ ถ้าจะใช้ยาก็ใช้ยาที่ทั่วโลกยอมรับให้ใช้ในสัตว์น้ำ เช่น ออกซี่เตทตร้าซัยคลิน เอ็นโรฟล็อกซาซิน ซัลฟาไตรเมทโทรปริม เป็นต้น โดยที่จำเป็นต้องมีระยะหยุดยา 21 วัน ก่อนจับ ..ส่วนเกษตรกรหรือฟาร์มไหน จะกรุณา เพิ่มเติมอีกนิด คือ ถ้าห้องเย็น หรือแพ ได้ติดต่อที่จะจับกุ้งในบ่อเราแต่เรายังมีการผสมยาต้านจุลชีพอยู่ ขอให้บอกตรงๆกับห้องเย็นหรือแพว่า เรามีการใช้ยาจริง หรือเราใช้ยาจริง และหยุดให้ยาจริง แต่มีระยะหยุดยายังไม่ครบกำหนด คือยังไม่ถึง 21วัน ..... เพื่อกุ้งจากบ่อของเราชุดนี้จะได้ไม่ถูกส่งต่อไปต่างประเทศ...(ปัญหายักษ์)
20 กว่าปี ก่อน ตอนประมาณ 2545, 2546 สินค้ากุ้งไทยเราเคยเจอวิกฤตการมีสารตกค้างในสินค้ากุ้งมาแล้ววววว......
กุ้งไทยไปต่อได้ เพราะคำว่าคุณภาพ และ มาตรฐานการผลิตที่ดี ดังนั้นต้องไม่มีสารต้องห้าม และหรือ ถ้ามียาตกค้างในเนื้อกุ้ง ต้องไม่เกินค่าตามที่ได้กำหนดและยอมรับของผู้ซื้อเท่านั้นครับ ......
เอกอนันต์ ยุวเบญจพล
ฝ่ายวิชาการ บมจ. ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์
สอบถามบทความเพิ่มเติมได้ที่ 0842915396
