เป้าหมายและประสิทธิภาพขององค์กร
(Fishery Improvement Project ) และพัฒนาโรงงานปลาป่นให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน IFFO-RS และ IFFO-RS COC
โครงการพัฒนาระบบการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงไทย
จากปัญหาการทำประมงอย่างไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในหลักเหตุผลที่ใช้อ้างถึงว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำลดลง และเกิดกระแสให้นานาประเทศตระหนักถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการดูแลรับผิดชอบทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลที่เป็นสาธารณะสมบัติ กระแสความตระหนักดังกล่าว ส่งผลให้บางประเทศออกมาตรการเพื่อใช้ในการควบคุมการทำประมงภายในประเทศให้เกิดความรับผิดชอบตลอดจนควบคุมสินค้าที่จะมาจำหน่ายในประเทศตน ให้มีการยืนยันและสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสินค้าที่มาจากการทาการประมงอย่างรับผิดชอบ หรือ Non-IUU (Illegal Unreported and Unregulated Fishing) ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากกลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกาเป็นต้น
ต่อมาคณะทางานพัฒนาระบบการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ประมงของไทย (Thai Sustainable Fisheries Roundtable: TSFR) ซึ่งประกอบด้วย 8 สมาคม ได้แก่ สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย สมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย สมาคมผู้ผลิตปลาป่นไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสาเร็จรูป สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย โดยมีอธิบดีกรมประมงเป็นประธาน ได้เล็งเห็นถึงความสาคัญในการใช้มาตรฐานสากลเพื่อยกระดับการจัดการประมงและระบบการผลิตสินค้าประมงของไทยให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ โดยใช้กระบวนการ Fishery Improvement Project หรือ FIP ซึ่งเป็นกระบวนการที่นานาชาติยอมรับในการปรับปรุงและพัฒนาการประมงอย่างรับผิดชอบและนำไปสู่ความยั่งยืน โดยกระบวนการดังกล่าวมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แสดงความคิดเห็นและร่วมมือในการแก้ปัญหา และเข้าสู่มาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมสากล
ด้วยหลักการ การพัฒนาแผนปรับปรุงประมง (FIP) ที่ได้รับความยอมรับจากองค์กรนานาชาติและประเทศผู้ค้า ต้องมีองค์ประกอบที่สาคัญ คือ
ต้องเป็นแผนที่มาจากการมีส่วนร่วมและความพยายามของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย หรือ multi-stakeholder engagement and effort
ต้องระบุกิจกรรมที่ในการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน เรียงลำดับตามความสำคัญและระยะเวลาในการดำเนินการ รวมทั้งผู้ดำเนินการ
การดำเนินการตามขั้นตอนตามแผนที่วางไว้และการตรวจสอบผลดาเนินการอยู่เป็นระยะ
โดยขั้นตอนการพัฒนาแผนปรับปรุงประมง FIP แบ่งออกเป็น 3 ระยะ หลัก คือ
ระยะที่ 1
การประเมินเบื้องต้น (Pre-assessment)
คือกระบวนการระบุสถานการณ์ปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับการทำประมง จากสถานะของทรัพยากร ผลกระทบของสิ่งแวดล้อม วิธีการประมงและผลการจับที่สอดคล้องกับความสัมพันธ์ของปริมาณสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม ประสิทธิภาพการจัดการจากกฎหมายและข้อกำหนดของภาครัฐ เพื่อแสดงถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น โดยผู้มีประสบการณ์ในการประเมิน ซึ่งผลที่ได้คือรายงานการประเมินเบื้องต้น (pre-assessment report)
ระยะที่ 2
การจัดทำแผนการปรับปรุงประมง
(Fishery Improvement Plan)
ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนต่อเนื่องจากการประเมินเบื้องต้น แบ่งเป็น 2 ขั้นตอนด้วยกัน คือ
1.การนำผลการประเมินมาวิเคราะห์ช่องว่าง (Gap analysis)
ซึ่งภายในโครงการนี้มีจุดประสงค์ในการทำแผนปรับปรุงประมงภายใต้กรอบมาตรฐาน IFFO RS V2 ที่ตอบรับกับสภาพทรัพยากรและประมงของไทย ผลลัพธ์จากขั้นตอนนี้คือ รายงานวิเคราะห์ช่องว่าง (gap analysis report)
2.การทำแผนปรับปรุงประมง (Action Plan)
จากรายงานวิเคราะห์ช่องว่าง เพื่อนำไปเป็นต้นฉบับร่างแผนการปรับปรุงประมง โดยในกระบวนการนี้ จะต้องมีการระดมความคิดและมีส่วนร่วมจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมง ชาวประมง เพื่อหาวิธีการในการแก้ปัญหา จัดลาดับความสำคัญในการแก้ปัญหา รวมถึงหาผู้รับผิดชอบและเกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้นๆ แผนการปรับปรุงประมงนี้จะสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดยอมรับในกิจกรรมและกระบวนการตามแผน
ระยะที่ 3
กระบวนการปฏิบัติตามแผนปรับปรุงประมง
และติดตามผลการดำเนินการ (Implementation)
ระยะนี้จำเป็นอย่างยิ่งจะต้องมีการสื่อสารความคืบหน้าโครงการแก่ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับโครงการโดยโครงการการพัฒนาและปรับปรุงการประมงอวนลาก(Trawl Fishery Improvement Project) แบ่งการทางานเป็น 2 โครงการ คือ โครงการฝั่งอันดามัน และ โครงการฝั่งอ่าวไทย
โดยมีสถานะและบทบาทผู้ที่เกี่ยวข้องดังนี้
Fishery Improvment Projects (FIPS)
Model FIP | Model FIP in Andaman | Model FIP in gulf of thailand |
---|---|---|
Project Owner | Thai sustainable Fishery Roundtable (TSFR) | |
Project Advisor | World wildlife Fund (WWF) | Sustainable Fisheries Parnership (SFP) |
Project Manager | World wildlife Fund (WWF) | Fish matter (Mr. Duncan) |
Project Contributor | Fisheries Expert(Dr.Rawee) | Fisheries Expert(Dr.Rawee) |
Assessment auditor | MRAG | RS Standards UK |
Assessment auditor | MSC | IFFO RS (Version 2) |
โครงการ Trawl FIP (อันดามัน)
สถานะ โครงการได้ดำเนินการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ช่องว่าง (Gap analysis) และรายงาน scoping document ซึ่งเป็นรายงานที่จะบอกว่าโครงการควรมีขอบข่ายการพัฒนาในเรื่องใดบ้าง และนำผลวิเคราะห์ทั้ง 2 รายงาน ไปจัดทำเป็นแผนการพัฒนา (action plan) ซึ่งโครงการอันดามัน ยังมีข้อจำกัด คือเป็นโครงการที่ประเมินผลก่อนที่ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 จะประกาศและมีผลบังคับใช้ อีกทั้งโครงการใช้หลักการการประเมิณตาม MSC ซึ่งหากยังคงใช้หลักการนี้ จะต้องใช้เวลาในการดำเนินการโครงการอย่างน้อย 10 ปี ทำให้ TSFR ต้องพิจารณาและอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับเปลี่ยนการอ้างอิงมาเป็นมาตรฐาน IFFO RS multispecies เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทการประมงไทย ที่มีความหลากหลายของชนิดสัตว์น้ำ
ขั้นตอนต่อไป ทบทวนการประเมินสถานการณ์ประมงอีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบการประมงใหม่ที่เกิดขึ้น และทบทวนแผนกิจกรรมที่เดิมเคยจัดทำไว้ และนำแผนกิจกรรมที่ได้ไปสู่การปฏิบัติต่อไป ซึ่งในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีบุคลากรและงบประมาณมาสนับสนุน
โครงการ Trawl FIP (อ่าวไทย)
สถานะ โครงการได้ดำเนินการจัดทารายงานวิเคราะห์ช่องว่าง และจัดทำเป็นแผนการพัฒนา (action plan) แล้ว โดยร่างแผนการพัฒนาดังกล่าวผ่านการพิจารณาจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2561 ณ กรมประมง โดยมีกิจกรรมหลักทั้งหมด 14 กิจกรรม และสามารถแยกย่อยเป็นกิจกรรมย่อยได้อีก
ขั้นตอนที่ต้องเร่งดำเนินการ โครงการจะต้องจัดส่งใบสมัครการเข้าร่วมโครงการตามมาตรฐาน IFFO RS Improver Program ตามแบบฟอร์ม 3A ซึ่งโครงการนี้ จะระบุรายชื่อโรงงานปลาป่นที่เข้าร่วมโครงการใน Annex 2 และโรงงานอาหารสัตว์ที่เข้าร่วมโครงการใน Annex 3 ซึ่งหากโครงการได้ submit ใบสมัครตามฟอร์ม 3A ให้กับ IFFO RS แล้ว หากมีบริษัทใดต้องการเข้าร่วมโครงการจะมีเงื่อนไขว่า จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้เข้าร่วมโครงการปัจจุบันอย่างน้อย 75% ซึ่งขณะนี้ โครงการมีบริษัทผู้ผลิตปลาป่นเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 42 ราย และมีบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์เข้าร่วมโครงการ 6 ราย ขั้นตอนต่อไป นาแผนปฏิบัติการ(action plan) ที่ผ่านการพิจารณาจาก IFFO RS แล้วไปสู่การปฏิบัติและประเมินตามกรอบระยะเวลาที่ IFFO RS กำหนด
อ่านเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ในภาพรวมของเรา
แรงงานปลอดภัยและแรงงานที่ถูกกฎหมาย
ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานให้เกิดความปลอดภัยและไม่มีการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมาย โดยเราได้รับการตรวจสอบจากภายนอกและมีรายงานการ Sedex
อ่านเพิ่มเติมการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ
วิธีการดำเนินงานของบริษัทต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและแสดงถึงหน้าที่ในการดูแลและปฏิบัติต่อแรงงานของบรัษัท
การจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ
บริษัทไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ ให้ความสำคัญกับเรื่องความโปร่งใสในการตรวจสอบกลับได้ของผลิตภัณฑ์ ในอาหารของไทยยูเรี่ยนฟีดมิลล์ในทุกกระสอบด้านหลังจากมีตัวเลขประทับตราไว้ เช่น FIF 02080919021 ตัวเลขนี้ สามารถสอบย้อนกลับไปยังแหล่งวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตได้ทุกตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุดิบที่มาจากทะเล สามารถสอบกลับไปได้ถึงเรือประมงและแหล่งที่จับปลา
ผู้คนและชุมชน
ไทยยูเนี่ยนฟีดมิลล์ให้ความสำคัญกับทุกคนที่เราใกล้ชิดและร่วมงานด้วย เรามีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่อาศัยและทำงานในภูมิภาคที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่