ราคากุ้งประจำวัน

ปรับปรุงเมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2566

จำนวนกุ้ง (ตัว) ต่อกิโลกรัม 40 50 60 65 70 75 80 85 90 95 100 105 110 115 120 125 130 135 140 145 150 จำนวนตู้
ราคา (บาท) 205 185 175 17 170 160 150 145 135 130 128 122 122 120 120 120 120 118 118 118 116 29

จับสัญญาณธุรกิจอาหารกุ้งโตแกร่ง เตรียมแผนขยายตลาดโตต่อเนื่อง

กรุงเทพมหานคร – 2 สิงหาคม 2566 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ด้วยยอดขายอยู่ที่ 1,343.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรขั้นต้น 122.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิ 47.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.6 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ในไตรมาส 2 บริษัทมีบันทึกรายการพิเศษเป็นการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ ฟาร์มทดลองที่จังหวัดตรัง จำนวน 20 ล้านบาท เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากลงทุน (BOI) ได้ครบกำหนด ซึ่งหากไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษนี้แล้ว บริษัทจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 67.8 ล้านบาท

หากมองเปรียบเทียบผลการดำเนินประจำไตรมาส 2 กับไตรมาสก่อนหน้า ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ สามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยพลิกฟื้นจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุนมาเป็น กำไรสุทธิ 47.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 272.3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 156.4 เปอร์เซ็นต์ และยอดขายเพิ่มขึ้น 16.6 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสแรกของปี

นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา กล่าวถึงแนวทางการบริหารบริษัทตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมาว่า “บริษัทได้มีความพยายามในการปรับปรุงและปรับระบบในการบริหารจัดการด้านต่างๆ ทั้งในด้านการบริหารจัดการต้นทุน และการควบคุมการผลิตสินค้า เพื่อให้มีคุณภาพที่ดี รวมถึงไปการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสดใหม่ของอาหาร รวมไปถึงคุณภาพอาหารที่จะช่วยให้สัตว์น้ำเติบโตได้ดี ในอัตรา FCR (Feed Conversion Ratio) ที่ต่ำ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถมีกำไรและเป็นพันธมิตรที่ดีกับริษัท ตลอดจนการผนึกกำลังกับธุรกิจต่างๆ ในกลุ่มของไทยยูเนี่ยน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและขยายธุรกิจไปยังโอกาสใหม่ๆ และช่องทางต่างๆ”

ยอดขายของไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ มีสัดส่วนมาจากธุรกิจ 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ธุรกิจอาหารกุ้ง 60.6 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจอาหารปลา 29.3 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจอาหารสัตว์บก 8.7 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ 1.4 เปอร์เซ็นต์

โดยในไตรมาส 2 ของปี 2566 ธุรกิจอาหารกุ้งมียอดขายอยู่ที่ระดับ 813.9 ล้าน เพิ่มขึ้น 14.8 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการปรับกลยุทธ์การขายที่เน้นสินค้าพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่าปริมาณการขายอาหารกุ้งยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่ผ่านที่ 25,249 ตัน เพิ่มขึ้นเพียง 0.7 เปอร์เซ็นต์ สำหรับธุรกิจอาหารปลามียอดขายอยู่ที่ระดับ 394 ล้านบาท ลดลง 9.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่ายอดขายอาหารปลาในประเทศจะยังทรงตัวได้ดีจากกลยุทธ์การขายที่เน้นอาหารปลากะพง แต่ยอดขายอาหารปลาของบริษัทในประเทศปากีสถานมีการปรับลดตัวลงส่งผลให้ยอดขายในส่วนนี้ลดลงไปด้วย สำหรับธุรกิจอาหารสัตว์บก มียอดขายอยู่ที่ 116.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในประเทศปากีสถาน

“ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ เราใช้วิธีคิดและแนวทางการบริหารจัดการแบบครบวงจรเข้ามาปรับใช้ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตให้มากขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพของสินค้าและบริการ เพราะถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจในการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าในระยะยาว ซึ่งในสถานการณ์ที่วัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น การบริหารจัดการกลุ่มสินค้าก็เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ โดยจะไม่ผลิตสินค้าในกลุ่มที่ไม่ทำกำไร การบริหารจัดการต้นทุนจึงเป็นการวิเคราะห์ต้นทุนและวางแผนการผลิตอย่างรอบคอบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทำให้เราสามารถพลิกกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาสนี้ ในครึ่งปีหลังของปี เรายังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจทุกรูปแบบเพื่อให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมาย” นายพีระศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย